หัวข้อ
- #กฎหมาย
- #รีวิวหนังสือ
- #บทวิจารณ์หนังสือ
- #ทนายความ
- #แนะนำหนังสือ
สร้าง: 2024-04-15
สร้าง: 2024-04-15 06:44
ชื่อเรื่องดึงดูดสายตาจนต้องเหลียวมองหนังสือเล่มนี้เลยทีเดียว 'คนมันไม่ชอบ!' แม้จะเป็นประโยคเชิงลบ แต่ดูเหมือนความหมายที่ซ่อนอยู่ข้างในจะไม่ใช่เรื่องลบเสียทีเดียว พอได้เห็นชื่อของผู้เขียนจากปกหลังว่าเป็นทนายความ ก็พอจะเดาความหมายของประโยคได้บ้าง เหมือนจะได้ฟังเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ชอบคนแล้วล่ะ
หนังสือเล่มนี้มีมุมมองที่คาดไม่ถึงหลายอย่าง
อย่างแรกเลยคือตอนที่ผู้เขียนประกาศในคำนำว่า “ทนายความก็คือคนที่เขียนหนังสือ” สำหรับหลายๆ คน รวมถึงตัวดิฉันเองด้วย ภาพลักษณ์ของทนายความก็แค่คนที่พูดเก่งเท่านั้น แต่เนื่องจากงานหลักๆ ของพวกเขาคือค้นหาข้อมูลทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีจากกฎหมายต่างๆ แล้วร่างเอกสารทางกฎหมายเพื่อยื่นต่อศาลก่อนการพิจารณาคดี จึงทำให้คำอธิบายที่ว่าพวกเขาเป็นนักเขียนและล่ามชนิดหนึ่งนั้นเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ตอนที่ดูสารบัญแล้วพบคำศัพท์ที่คาดไม่ถึงก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน เพราะแบ่งเป็น 4 ส่วนด้วยชื่อภาพยนตร์ของหว่องกาไวที่คุ้นเคย เช่น อาภัพรัก เทวดาตกสวรรค์ จงหวิงซันหลิม และดอกสาลี่ เหตุผลที่แบ่งเป็นแบบนี้ทำให้รู้สึกอยากอ่านเนื้อหาในเล่มเร็วๆ ขึ้น
แต่เรื่องราวที่ทนายความต้องเผชิญนั้นจะซับซ้อนและน่าเศร้าแค่ไหนกันนะ?
ก่อนที่จะเข้าไปในเนื้อหา จะพบข้อความแจ้งเตือนที่ว่าเรื่องราวต่างๆ ในหนังสือได้ถูกดัดแปลงตามกฎหมายว่าด้วยทนายความเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล แม้จะบอกว่าดัดแปลงแล้ว แต่ก็แทบไม่รู้สึกเลยว่ามีการดัดแปลง เพราะการบรรยายละเอียดและอารมณ์ความรู้สึกดูจริงใจมาก
“ลูกความเรียกร้องให้เข้าข้างและเห็นใจอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่ในฐานะมืออาชีพก็ต้องถอยออกมาดูสถานการณ์อย่างเป็นกลางและตอบสนองด้วยความเยือกเย็น มันเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงกว่าที่คิด บางครั้งรุนแรงถึงขั้นคุกคามความสัมพันธ์ บางทีก็เจอทนายความที่อินกับคดีราวกับเป็นคนของตัวเองแล้วระเบิดอารมณ์ออกมาในศาล เหมือนดูละครเลย แน่นอนว่าบางคดีก็เป็นการฟ้องร้องเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจต่อหน้าคนอื่นโดยไม่คำนึงถึงชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ แต่ก็เป็นเพียงความโล่งใจชั่วครู่หลังจากเสียเงินเสียเวลาไปมากมาย ฉันไม่แนะนำ ถึงแม้ลูกความจะเสียใจ ก็พยายามลดการพูดให้ร้ายฝ่ายตรงข้าม การยื่นอุทธรณ์ทางอารมณ์ไว้เป็นลำดับสุดท้าย เป็นความพยายามที่จะไม่สร้างความประทับใจที่ไม่ดี แน่นอนว่ามันทำให้รู้สึกไม่สะใจ แต่การได้ยิ้มรับคำตัดสินถึงจะเป็นผู้ชนะที่แท้จริง นั่นแหละคือหน้าที่ของทนายความจริงๆ” - คัดลอกจากเนื้อหาในหนังสือ
โชคดีที่ยังไม่เคยต้องไปพึ่งพาทนายความ แต่ถ้าวันไหนต้องจ้างทนายความ ก็อยากได้ทนายความแบบนี้ เพราะคิดว่าการยื่นอุทธรณ์ทางอารมณ์เป็นสิ่งที่คนไทยโดยเฉพาะมักตกหลุมพรางง่ายๆ การแสดงอารมณ์หรือขอความเห็นใจในศาลเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะคดี เพราะอารมณ์บางครั้งก็เป็นการระบายปัญหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา และอาจทำให้ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการ
‘นายหน้าไม่กินแฮมเบอร์เกอร์’ เป็นส่วนที่น่าสนใจมาก นายหน้าในแวดวงกฎหมาย เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่ก็แปลกใจที่รู้ว่าพวกเขามีตัวตนอยู่จริง พอรู้ว่าพวกเขามีตัวตนอยู่จริง มีวิธีการทำงานอย่างไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าโลกกว้างใหญ่ มนุษย์มีความหลากหลาย และมีเรื่องที่ไม่รู้มากมาย ฉันคิดว่าทนายความกับนายหน้ามีความสัมพันธ์คล้ายกับจระเข้กับนกกระสา แต่ความสัมพันธ์แบบนั้นอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และกลายเป็นอันตรายต่อผู้ใช้บริการ จึงเป็นเรื่องที่ต้องระวังเอาไว้
ซนซูโฮ ผู้เขียน หรือทนายความ กล่าวว่า “ไม่รู้เมื่อไหร่จะโดนแทง” “โลกที่อยู่ยาก” แต่เขาก็พยายามไม่ทิ้งความหวัง นั่นเป็นเหตุผลที่เขายังคงต่อสู้ในสนาม หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้จิตใจเขาเบาลงบ้าง ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ โลกใบนี้เต็มไปด้วยคนไร้เหตุผล คดีความและการฟ้องร้องจึงไม่เคยขาดหายไป ดังนั้นทนายความที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
※ บทวิจารณ์นี้เขียนขึ้นจากความรู้สึกจริงหลังจากอ่านหนังสือที่ได้รับจากคาเฟ่เนเวอร์ คัลเจอร์บลูม https://cafe.naver.com/culturebloom/1377302
ความคิดเห็น0